4 วิธีตรวจสอบการทำงานของ Hammer lock ยังดีไหม ตอนไหนควรเปลี่ยน

เคยสังเกตไหมว่า รถเข็นในโรงงานของคุณเริ่มเลื่อนไถลได้ง่ายขึ้นทั้งที่ล็อกแล้ว? ถ้าใช่นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า Hammer Lock เริ่มเสื่อมสภาพ และควรรีบตรวจสอบโดยด่วน เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน

วันนี้เราจะพาไปดู 4 วิธีง่าย ๆ ในการตรวจสอบ Hammer Lock ว่ายังทำงานได้ดีอยู่หรือไม่ ตั้งแต่การทดสอบการล็อกและปลดล็อก การทดสอบความมั่นคงของแรงยึด ไปจนถึงการตรวจสอบสภาพอุปกรณ์ พร้อมบอกสัญญาณเตือนว่า เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนตัวใหม่ ก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้นก่อนที่จะสายเกินไป

ตรวจสอบการล็อกและปลดล็อก (Engage & Disengage Test)

การทดสอบการล็อกและปลดล็อกเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการตรวจสอบ Hammer Lock ช่วยให้รู้ว่ากลไกภายในยังทำงานได้อย่างราบรื่นหรือไม่

ขั้นตอนนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก และควรทำทุกครั้งก่อนเริ่มงาน หรือเมื่อสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของตัวล็อก ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: การเหยียบแป้นล็อก (Engaging the Lock)

เริ่มจากใช้เท้าเหยียบแป้นล็อกลงไปจนสุด ด้วยแรงในระดับปกติ ไม่จำเป็นต้องออกแรงมากเกินไป

หาก Hammer Lock ทำงานปกติ ตัวล็อกจะเคลื่อนที่ลงมาสัมผัสพื้นอย่างมั่นคง ไม่กระเด้งกลับ และไม่มีเสียงผิดปกติ

หากพบความผิดปกติ ตัวล็อกติดขัด มีเสียงดังแปลก ๆ หรือรู้สึกว่าต้องออกแรงมากกว่าเดิม อาจเกิดจากกลไกภายในสึกหรอ มีสิ่งสกปรกสะสม หรือขาดการหล่อลื่น ซึ่งควรตรวจสอบและแก้ไขโดยเร็ว

ขั้นตอนที่ 2: การปลดล็อก (Disengaging the Lock)

จากนั้นให้ทดสอบการ ปลดล็อก โดยใช้เท้าเหยียบแป้นปลดล็อกลงตามปกติ

หาก Hammer Lock อยู่ในสภาพดี ตัวล็อกจะยกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็วและราบรื่น ไม่มีการหน่วงหรือเสียงผิดปกติ การเคลื่อนไหวจะดูเป็นธรรมชาติและต่อเนื่อง

หาก Hammer Lock ผิดปกติ ตัวล็อกค้าง ต้องใช้เท้าช่วยยก หรือรู้สึกฝืดมากกว่าปกติ แสดงว่ากลไกภายในอาจมีปัญหา เช่น สปริงเสื่อม ชิ้นส่วนเสียรูป มีฝุ่นสะสม หรือสึกหรออย่างรุนแรง ควรซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

การทดสอบความมั่นคง (Holding Capacity Test)

แม้ว่ากลไกการล็อกและปลดล็อกจะทำงานได้ดี แต่ควรทดสอบแรงยึดของ Hammer Lock เพื่อดูว่ายังสามารถยึดรถเข็นหรืออุปกรณ์ให้นิ่งอยู่กับที่ได้ดีหรือไม่ โดยทำตามขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 3: ทดสอบแรงผลักในแนวราบ (Horizontal Force Test)

หลังจากล็อก Hammer Lock เรียบร้อยแล้ว ให้ลองออกแรงผลัก (Push) และ ออกแรงลาก (Pull) รถเข็นในแนวราบด้วยแรงระดับปานกลาง

หากทำงานปกติ รถเข็นจะต้องไม่เคลื่อนที่ และล้อไม่หมุนเลยแม้แต่น้อย

หากพบความผิดปกติ รถเข็นไถลหรือขยับได้แม้เพียงเล็กน้อย แสดงว่าแผ่นสัมผัสพื้น (Friction Pad) อาจสึกหรอ หรือตัวล็อกไม่แน่นพอ ควรตรวจเช็กและซ่อมหรือเปลี่ยนทันที

การตรวจสอบสภาพอุปกรณ์

นอกจากทดสอบการทำงานแล้ว การตรวจเช็กสภาพภายนอกก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเพียงแค่รอยแตกร้าวเล็ก ๆ อาจเป็นต้นเหตุนำไปสู่ความเสียหายใหญ่ในอนาคตได้

ขั้นตอนที่ 4: ตรวจสอบรอยแตกร้าวและจุดเชื่อมต่อ

การตรวจสอบด้วยสายตา (Visual Inspection) เป็นขั้นตอนง่าย ๆ แต่ช่วยป้องกันปัญหาก่อนเกิดเหตุได้เป็นอย่างดี

• เริ่มจากตรวจสอบตัว Pad (แผ่นยางหรือพลาสติกที่สัมผัสพื้น) ว่ามีรอยฉีกขาด รอยบุบ หรือสึกหรอจนบางเกินไปหรือไม่
• ต่อมาที่ชิ้นส่วนโลหะ โดยเฉพาะบริเวณจุดเชื่อมต่อ ตรวจสอบว่ามีรอยแตกร้าว รอยเชื่อมหลุด หรือสนิมกัดกร่อนหรือไม่

หากพบรอยแตกหรือความเสียหายแม้เพียงเล็กน้อย ควรเปลี่ยนทันที เพราะอาจะชำรุดอาจแตกหักขณะใช้งานและก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ การลงทุนเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ ย่อมคุ้มค่ากว่าการเสี่ยงกับ ความปลอดภัยของคนและเครื่องจักร เสมอ

สรุป

การตรวจสอบ Hammer Lock ให้อยู่ในสภาพดีอย่างสม่ำเสมอด้วยวิธีง่าย ๆ ที่เราแนะนำ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์พร้อมใช้งานอย่างปลอดภัยเสมอ ไม่เพียงช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกสภาพแวดล้อมการทำงาน

หากคุณคือผู้ประกอบการหรือทีมซ่อมบำรุงที่กำลังมองหา Hammer Lock คุณภาพสูง มาตรฐานสากล CWheel พร้อมให้บริการด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและจำหน่าย Hammer Lock ที่แข็งแรง ทนแรงกดทับได้ดีเยี่ยม และออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานอุตสาหกรรมทุกประเภท พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพที่ให้คำปรึกษาได้ตรงจุด เพื่อให้คุณเลือกอุปกรณ์ที่ ปลอดภัย มั่นคง และคุ้มค่าที่สุดสำหรับโรงงานของคุณ

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดต่อ Cwheel ได้ที่

• โทร : 02-464-3601-3
• Email : info@cwheel.com
• Line : @cwheel
• Facebook : Cwheel ลูกล้อ